จุฬาฯ จนถึงปัจจุบันนี้ แบ่งเป็นการใช้ในผู้ป่วย CVT-ICU 50 ราย และการใช้ในผู้ป่วย PICU 7 ราย โดยจากสถิติที่รายงาน ใน ELSO registry พบว่าอัตราการรอดชีวิตจากการใช้เครื่องพยุงปอดและหัวใจของเด็กแรกเกิดอยู่ที่ 70% ส่วนในเด็กและผู้ใหญ่จะมีอัตราการรอดชีวิตใกล้เคียงกัน คือ 40-50% แต่หากเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการช่วยชีวิตด้วยเครื่อง ECMO พบว่าผู้ป่วยจะมีอัตราการเสียชีวิตมากถึง 90% เลยทีเดียว ศ.
นพ.
ไปบอกญาติเพื่อขอให้ฟอกไต ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้ และล่าสุด น้าค่อมทรุดหนักจนต้องส่งตัวน้าค่อมไปรักษาที่รามาฯ สภาพตอนนี้คือน้าค่อมไม่รู้เรื่องแล้ว นอนอย่างเดียว และครอบครัวก็ต้องกักตัวที่บ้าน ทั้งนี้ เครื่องช่วยหายใจ หรือเครื่อง ecmo ทำหน้าที่คล้ายปอดหรือหัวใจเทียม มีเฉพาะตามโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ซึ่งคนที่ใช้เครื่องนี้นั้น แสดงว่าปอดและหัวใจอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอเกินกว่าที่จะทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเครื่องนี้ไม่ได้ทำหน้าที่รักษา เพียงแค่พยุงอาการให้พ้นไป เพื่อให้ปอดและหัวใจได้พักฟื้นเท่านั้น
รุจิภัตต์ มองว่า หากสามารถช่วยผู้ป่วยวิกฤตให้มีโอกาสรอดชีวิตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะมีเพียงคนเดียว ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว อย่างไรตามการใช้เครื่อง ECMO นี้ยังคงเป็นสิ่งท้าทาย ไม่เพียงในด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยชีวิตเท่านั้น แต่การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในหอผู้ป่วยวิกฤต ทั้งปริมาณและคุณภาพและการสร้างประสิทธิภาพของการทำงานเป็นทีม ก็เป็นปัจจัยสำคัญของการทำงานในวินาทีชีวิตด้วยเช่นกัน
แผนกผู้ป่วยวิกฤต(ICU) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีความพร้อมด้านอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและจำเป็นในการดูแลผู้ป่วยภาวะวิกฤตทุกชนิด อาทิ เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของสัญญาณชีพ เครื่องช่วยหายใจชนิดต่างๆ เครื่องล้างไตแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด (extracorporeal membrane oxygenation: ECMO) เป็นต้น เครื่องมือเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต(ICU) 1.
2502 โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์สมาน มันตาภรณ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนพ. 2503 ได้มีการผ่าตัดปิด Atrial septal defect (ASD) ที่โรงพยาบาลศิริราช หลังจากนั้นได้มีการผ่าตัดเพิ่มอีกหลายแห่งในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯมหานคร การผ่าตัดหัวใจในระยะแรกส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดในโรคหัวใจพิการมาแต่กำเนิดและโรคลิ้นหัวใจ การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery bypass graft; CABG) เพื่อแก้ไขพยาธิสภาพในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary artery disease; CAD) สำ เร็จครั้งแรกที่โรงพยาบาลศิริราช โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ปริญญา สากิยลักษณ์ ในปี พ. 2517 โดยรับย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลโรคทรวงอกที่ทราบผล Coronary angiogram ที่มีคุณภาพดีที่สุด จากการตรวจสวนหัวใจของนายแพทย์ธาดา ชาคร ผู้ก่อตั้งแผนกโรคหัวใจของโรงพยาบาลโรคทรวงอก การทำ CABG ครั้งนั้นเป็นการนำหลอดเลือดดำที่ขา (Saphenous vein) มาต่อกับหลอดเลือดโคโรนารีที่ตำแหน่ง Left anteriordescending (LAD) และ Right coronary artery (RCA) โดยวิธี Beating heart techniqueการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจสำเร็จเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชวลิต อ่องจริต และคณะ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.
ศิริวสันต์ อกนิษฐาภิชาติ เชี่ยวชาญศัลยกรรมทั่วไป สาขาศัลยศาสตร์ทรวงอก ท่านสามารถรับชมวีดีโอเกี่ยวกับ ECMO ได้ทาง YOUTUBE >>
อ่านเพิ่มเติม...