SERVES 1 คน LEVEL ง่าย ข้าวราดหน้าญี่ปุ่น เร็ว ง่าย อร่อยถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใช้สันคอหมูสไลซ์นำมาหมักกับซอสสูตรญี่ปุ่น หอมกลิ่นโชยุเเละมิริน ผัดจนสุกพร้อมหอมใหญ่ ราดข้าวญี่ปุ่นร้อนๆเสิร์ฟพร้อมไข่ดองโชยุรสเค็มๆมันๆ บอกเลยว่าเข้ากันดีมากๆ INGREDIENTS สันคอหมูสไลซ์ ซอสหมักสูตรญี่ปุ่น น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ หอมใหญ่ซอย ข้าวสวยญี่ปุ่นสำหรับจัดเสิร์ฟ งาขาวคั่วและต้นหอมซอย สำหรับโรย ไข่ดองโชยุ ซีอิ๊วญี่ปุ่น (โชยุ) มิริน 2 ไข่แดงไข่ไก่ METHOD 1. ทำไข่ดองโชยุโดยผสมซีอิ๊วญี่ปุ่นและมิรินลงในถ้วย คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่ไข่แดงลงในซอส ปิดด้วยพลาสติกแรป นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาทิ้งไว้ 1 คืน 2. หมักหมูโดยคลุกเคล้าสันคอหมูสไลซ์และซอสหมักรวมกันในอ่างผสม หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 20 นาที 3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อน ใส่หอมใหญ่ลงผัดจนสุกใส ใส่เนื้อหมูที่หมักไว้ ผัดจนหมูสุก ปิดไฟ 4. จัดจานโดยตักหมูที่ผัดไว้ราดบนข้าวสวยญี่ปุ่น วางไข่ดองโชยุ 1 ฟอง โรยด้วยงาขาวคั่วและต้นหอมซอย เสิร์ฟ อ่านบทความเพิ่มเติม ซอสหมัก 4 รส 4 สัญชาติ หมักอะไรก็อร่อย!
Home ภาษาญี่ปุ่น คำศัพท์ไทย – ญี่ปุ่น ค้นหา คำศัพท์ไทย – ญี่ปุ่น n › カニチャーハン ภาษาญี่ปุ่น カニチャーハン ก่อนหน้า « เข้าใกล้ ถัดไป (กิโมโน เสื้อผ้า)ที่มีลวดลายทั้งตัว » คำศัพท์ที่คล้ายกัน ข้าวผัด ผัด ผัด(ผัก) ปู การปูทางไว้ก่อน ที่ผัดหน้า ผัดผัก ข้าว แป้งผัดหน้า ปูอัด
ศ. 2447 (ปีเมจิที่ 37) เนื้อวัวถูกใช้เป็นอาหารของทหารเป็นปริมาณมาก จนเนื้อวัวในตลาดขาดแคลน เลยต้องกินเนื้อหมูเป็นของทดแทนกัน จริงๆ แล้วก่อนหน้านั้นไม่นาน รัฐบาลเมจิได้เริ่มให้ความสำคัญกับการเลี้ยงหมูในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "ประเทศมั่งคั่ง กองทัพเข้มแข็ง" (富国強兵) ในปี พ. 2443 (ปีเมจิที่ 33) กระทรวงเกษตรและพาณิชย์ได้จัดตั้งฟาร์มเพาะพันธุ์ที่เมืองนานาทสึกาฮาระ ทางตอนเหนือของจังหวัดฮิโรชิมา โดยนำเข้าหมูพันธุ์ยอร์กเชียร์และเบิร์กเชียร์จากอังกฤษเพื่อเพาะพันธุ์ขายลูกหมูและสนับสนุนการเลี้ยงหมูด้วย ด้วยเหตุนี้กอปรกับตามเมืองต่างๆ เริ่มมี "ร้านอาหารฝรั่ง" เพิ่มขึ้น อาหารเมนูหมูเช่น ทงคัตสึ ก็ค่อยๆ เป็นที่ยอมรับขึ้นมา ที่มาของ "หมูผัดซอสขิง" หมูผัดซอสขิง ในประวัติศาสตร์เรื่องเล่า "กระแสหลัก" ตามเว็บต่างๆ นั้นชี้ว่า "ร้านเซนิงาตะ" ซึ่งตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ. 2494 นั้นเป็นผู้คิดค้นหมูผัดซอสขิง ซึ่งเท่ากับว่าอาหารเมนูนี้กว่าจะมีก็ต้องเข้ายุคโชวะแล้ว (ดังที่ผู้เขียนเคยเล่าไว้ใน บทความก่อนหน้านี้) แต่มีผู้ค้นพบว่าในหนังสือ "อาหารเมนูหมู 200 ชนิด สไตล์ทานากะ" (田中式豚肉調理二百種) ซึ่งแต่งโดยนายทานากะ ฮิโรชิ (ศาสตราจารย์ด้านกายวิภาคสุกร มหาวิทยาลัยโตเกียว) ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี พ.
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับเมนูที่เริ่มจะเป็น "บูตะโชงะยากิ" เข้าไปเรื่อยๆ คือหนังสือ "อาหารครอบครัวสี่ฤดู" (四季の家庭料理) ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.