สกานต์ บุนนาค ผอ. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น อาการท้องเสียที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ในกระบวนการหมักดอง การรับประทานอาหารประเภททอด อาจส่งผลให้เกิดภาวะโรคอ้วน หรือการเคี้ยวหมากฝรั่งในปริมาณที่มากเป็นประจำ อาจทำให้ปวดท้องหรือส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามไม่ควรรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำ แต่ควรรับประทานอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และเลือกบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะหรือได้รับการรับรองมาตรฐานเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มี. ค.
ชา ชาจะมีกรด tannic ช่วยลดขนาดรูขุมขน ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ซึ่งเหงื่อเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เท้าส่งกลิ่นเหม็น และกรดของชา ยังช่วยลดปริมาณของแบคทีเรียในบริเวณเท้าได้อีกด้วย วิธีการก็คือ นำชา 2- 3 ถึง ต้มกับน้ำ ประมาณ 0. 5 ลิตรต้ม 15 นาที เมื่อเสร็จแล้วให้เทน้ำเย็นลง 2 ลิตร แล้วนำเท้ามาแช่ 30 นาทที สามารถทำได้อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และจะช่วยให้เท้าค่อย ๆ ไม่ส่งกลิ่นนั่นเองค่ะ 2. ทำความสะอาดรองเท้า อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ที่ว่า สาเหตุรองลงมาจากเหงื่อที่ออกมากจนทำให้เท้าส่งกลิ่น ก็คือ รองเท้าที่ไม่ได้ทำความสะอาดนั่นเอง การรักษาความสะอาดรองเท้าที่ใส่อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปซัก หรือการนำไปตากแดดฆ่าแบคทีเรียสะสมในรองเท้า ซึ่งอย่างน้อยก็ควรจะทำเดือนละ 2 ครั้ง จะช่วยให้ลดกลิ่นเท้าลงได้ดี หรือ เมื่อทำความสะอาดรองเท้าแล้ว ก็อย่าลมที่จะเปลี่ยนถุงเท้าคู่ใหม่ทุกครั้งด้วยนะคะ 3.
เท้ามีกลิ่นเหม็น หรือ อาการเท้าเหม็น (stinky feet) เป็นสิ่งที่รบกวนและสร้างความรำคาญให้แก่คนรอบข้างเป็นอย่างมาก นอกจากนี้อาจจะทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้เกิดความกังวลว่า เวลาจำเป็นต้องถอดรองเท้าต่อหน้าคนอื่นนั้น กลิ่นเหม็นจะส่งกลิ่นรบกวนคนรอบข้างแค่ไหน แต่ความกังวลนั้นจะหมดไป เพราะอาการเท้าเหม็นสามารถแก้ไขและรักษาอาการนี้ได้ ก่อนอื่นเราจะต้องไปทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เท้าเหม็นเสียก่อน อาการเท้าเหม็น เกิดขึ้นจากอะไร?