ล้างแอร์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? – ถ้าคอมเพรสเซอร์ตัวนอกทำงาน แลดูปกติ มาถึงข้อนี้ต้องใช้หน่วยความจำกันหน่อยละค่า ลองนึกดูซิว่าเราล้างแอร์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? ยังจำได้ไหม จำได้รึเปล่า? เพราะถ้าไม่ได้ล้างแอร์นาน เป็นไปได้ว่าแอร์สกปรก ด้วยศัตรูตัวร้ายในอากาศ อย่างฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส พวกนางอาจสะสมกองทัพไว้ในแผงคอยล์ จนคอยล์ ระบายทั้งความเย็นและความร้อนได้ไม่สะดวก ทำงานได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายคอมเพรสเซอร์ ก็โดน Knock out ค่ะ (กรณีนี้ ติดต่อช่างแอร์ด่วนๆเหมือนกันค่า โทร 02-451-6845) 5. น้ำยาแอร์ขาด น้ำยาแอร์รั่ว รึเปล่า? – ถ้าเราเพึ่งล้างแอร์ไปได้ไม่กี่เดือน นักสืบอย่างเราจะไม่จบแค่นั้น หาสาเหตุกันต่อค่ะ คราวนี้ลองไปดูตามท่อน้ำยาแอร์กันหน่อยซิ๊ มีน้ำแข็งเกาะ น้ำหยดติ๋งๆอยู่รึเปล่า? ถ้ามีแสดงว่า น้ำยาแอร์รวมตัวกัน ทลายกองทัพฝ่ายหน้าได้สำเร็จ พยายามจะเป็นไทออกจากท่อให้ได้ ~~ ก็ว่าไปนั่นค่า จริงๆคือเกิดการรั่วซึมของน้ำยาแอร์ ทำให้น้ำยาแอร์ขาด แอร์เลยมีแต่ลมๆออกมา (กรณีนี้ก็เรียกช่างแอร์ค่ะ โทร 02-451-6845) 6. ฟิลเตอร์ตัน รึเปล่า? – หลายคนอาจตกม้าตายได้ค่ะ สุดท้ายเช็คทุกอย่างดีหมด แต่! เอ๊ะ!!!
สายพานแอร์หย่อน อาจก่อให้เกิดเสียงดังได้ เราจึงควรต้องตรวจเช็คจุดต่างๆ โดยรอบ เช่นจุดยืดคอมเพรสเซอร์แอร์ว่ามีตำแหน่งชำรุดหรือไม่ด้วย และเมื่อพบความผิดปกติควรรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด หลากวิธีถนอมแอร์รถยนต์ 1. สตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนแล้วจึงค่อยเปิดแอร์ นับเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยถนอมระบบแอร์โดยเฉพาะคอมเพรสเซอร์ หากแต่ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นระบบ AUTO ก็สามารถที่จะเปิดการทำงานแบบอัตโนมัติได้เลย เป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถในแต่ละรุ่น ซึ่งสามารถที่จะเปิดระบบปรับอากาศอัตโนมัติไว้ได้เลยไม่ต้องคอยเปิด-ปิด 2. ปรับระดับของพัดลมและความเย็นให้สัมพันธ์กันในรุ่นแอร์ปกติไม่ใช่ระบบ AUTO ซึ่งหากปรับระดับพัดลมต่ำ แต่น้ำยาแอร์สูง จะสังเกตเห็นได้ว่ามีไอเย็นออกมา ซึ่งอาจส่งผลทำให้ระบบแอร์เป็นน้ำแข็งภายใน นำไปสู่ความเสียหายของแอร์ในรถได้ 3. ปิดกระจกให้สนิทลดภาระในการทำงานหนักของระบบแอร์ และอาจก่อให้เกิดไอน้ำขึ้นในช่องแอร์ได้ 4. ปิดสวิทซ์ A/C ก่อนดับเครื่องยนต์จอดรถประมาณ 3 นาที พร้อมกับการเปิดระดับพัดลมแรงสุด เพื่อเป็นการไล่น้ำในช่องแอร์นั้นเอง การทำความสะอาดล้างแอร์รถยนต์ เป็นการล้างแอร์เพื่อเอาสิ่งสกปรกต่างๆ ในระบบออก สามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีการหลักๆ ได้ดังนี้ 1.
ฟิลเตอร์สกปรก แผ่นกรองอากาศสกปรกเป็นสาเหตุที่เจอได้บ่อยที่สุด เวลาที่ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ เกาะสะสมบนฟิลเตอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนอุดตันทำให้ลมระบายยาก ยังทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมานอกจากแอร์ไม่เย็นด้วย เช่น ส่งผลกับเทอร์โมสตัด (ตัวควบคุมอุณหภูมิภายในเครื่องปรับอากาศ) ท่อลมตัน คอยล์เย็นมีน้ำแข็งเกาะกันไม่ให้ความเย็นออกมาได้ อาจจะมีปัญหาน้ำหยดต่ออีกต่างหาก ฟิลเตอร์สกปรกก็ควรล้างแอร์ โดยปกติแล้ว หากท่านเปิดแอร์วันละ 8-12 ชั่วโมง ควรจะล้างแอร์ทุก 6 เดือนครับ 2. คอมเพลสเซอร์ไม่ทำงาน คอมเพลสเซอร์เป็นหัวใจของเครื่องปรับอากาศครับ มีหน้าที่อัดน้ำยาแอร์ไปตามท่อทองแดงไปที่คอยล์ร้อนเพื่อดึงความร้อนออกผ่านพัดลมระบายอากาศ ถ้าคอมเพลสเซอร์ไม่ทำงาน ก็ไม่มีตัวคอยช่วยดึงความร้อนออก แอร์ก็ไม่มีทางเย็นแน่ ๆ ถึงพัดลมระบายยังหมุนอยู่ก็ตาม สาเหตุคอมเพลสเซอร์ไม่ทำงานอาจมาจากแอร์บางรุ่นที่ปิดการทำงานเมื่อไฟตก สับเบรกเกอร์ก็หาย แต่ถ้าไม่ใช่ ต้องเรียกช่างเปลี่ยนอะไหล่บางตัวหรือยกเครื่องคอมเพลสเซอร์ใหม่ครับ 3. น้ำยาแอร์รั่ว เวลาน้ำยาแอร์รั่วจะเป็นคราบน้ำมันลื่น ๆ แถว ๆ จุดรั่วซึม ปกติน้ำยาแอร์มีโอกาสรั่วซึมได้หลายจุดเลย โดยเฉพาะแอร์รุ่นเก่า สาเหตุก็หลากหลาย อาจจะเริ่มจากการติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้มาตราฐาน แรงดันน้ำยาภายในระบบ เป็นต้น ถ้าเติมน้ำยาแอร์อย่างเดียว แรก ๆ ก็เย็น แต่ไม่กี่เดือนก็กลับมาออกแต่ลมอีก ต้องเชื่อมอุดรอยรั่วถึงจะหาย แต่ถ้าเป็นจุดที่สังเกตยาก ต้องไล่เช็กทีละจุดครับ 4.