ยาเสพติดให้โทษ พ.
ป. ) หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200, 000 บาท ห้ามมิให้ขายพืชกระท่อมให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และสตรีมีครรภ์ รวมถึงห้ามใช้ จ้างวาน หรือยินยอมให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีขายพืชกระท่อม หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200, 000 บาท อย่างไรก็ตาม ร่างพ. ดังกล่าวยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหรือข้อกำหนดภายในร่างพ. อีกหลายครั้งจนกว่าจะมีประกาศใช้เป็นกฎหมาย ขณะที่ ไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างพ. ดังกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นในการตราร่างพ. พืชกระท่อมที่มีลักษณะเป็นกฎหมายควบคุมเข้มงวด เพราะเป็นการสร้างผลกระทบต่อประชาชนทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ ยังไม่รวมถึงการกำหนดโทษทางอาญาที่หนักเกินกว่าความจำเป็น นอกจากนี้ ในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ก็ไม่ถือว่าพืชกระท่อมเป็นยาเสพติดและมิได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้หากมีการใช้อย่างถูกต้อง และในประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ เยอรมัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เป็นต้น ต่างก็ไม่ได้มีการควบคุมการใช้พืชกระท่อมโดยมีกฎหมายกำหนดโทษทางอาญาเหมือนอย่างในประเทศไทย เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ พ. ศ. 2564 มีการแก้ไขถอดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดประเภท 5 คือพืชกระท่อม จะไม่เป็นยาเสพติดตามกฎหมายอีกต่อไป พระราชบัญญัติฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.
หลังมีการปลดล็อกให้ใบกระท่อมถูกกฎหมาย เพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างเสรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงผู้ต้องหาที่เคยต้องคดีกระท่อมได้พ้นผิด ล่าสุดเล็งผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกนอกต่างประเทศ (20 ก. ย. 2564) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป. ป. ส. จัดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "พืชกระท่อมไทยไปตลาดโลก" โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน และให้ข้อมูลระบุว่า จะทำให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ซื้อขาย-ปลูกได้ ซึ่งวันนี้มีผู้คนสนใจอยากจะปลูกกระท่อมเป็นจำนวนมาก จนทำให้ใบกระท่อมมีราคาขายอยู่ที่ 300-500 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งหากนำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจจะช่วยปลดหนี้ให้เกษตรกรได้ ส่วนในด้านกฎหมาย ทาง ป. ระบุว่า ตอนนี้กฎหมายกระท่อมปลดล็อกแล้ว สามารถปลูกได้ทุกที่ ซื้อได้ทุกทาง กินได้ทุกคน ซึ่งใครที่จะปลูก จะค้าขายใบหรือต้นพันธุ์ ไม่ผิดกฎหมาย แต่หากเอาไปทำเป็นอาหาร เครื่องสำอาง หรือน้ำต้มกระท่อม ไม่ได้ผิดกฎหมายยาเสพติด แต่ผิด พ. ร. บ. อาหาร ของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนการกินนั้นโดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ต้องระวัง เพราะมีสารบางตัวที่จะส่งผลกระทบได้ และสิ่งที่ ป.
21 ก. ย. 64 พล. ต.