ตามสิทธิรักษาของท่าน UCEP Plus เข้ารักษาใน รพ. ใดก็ได้ที่อยู่ใกล้ (รัฐ/เอกชน) ไม่เสียค่าใช้จ่าย รพ. ดูแลรักษาจนหายหรือส่งต่อไป รพ. อื่นได้หากศักยภาพไม่เพียงพอ หรือส่งต่อให้ รพ. ในเครือข่ายที่จัดไว้ ***ขั้นตอนนี้ หากผู้ป่วย/ญาติปฏิเสธ ต้องออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง หมายเหตุ กรณีผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง/แดง มีประกันชีวิต ให้ใช้สิทธิตามประกันชีวิตก่อน ที่มา: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ข่าวที่น่าสนใจ
ต้มไฟอ่อนพอเดือดประมาณ 1 ชั่วโมงรับประทานวันละ 3 ครั้ง ภาพประกอบจาก:
สีเขียว ไม่มีอาการ มีไข้อุณหภูมิ 37. 5 องศาขึ้นไป ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส เจ็บคอ ไอ/มีน้ำมูก มีผื่น ถ่ายเหลว ตาแดง หากมีอาการเปลี่ยนแปลง เข้าสู่กลุ่มสีเหลือง/แดง ส่งต่อ รพ.
มะขามป้อง มะขามป้องมีคุณสมบัติรักษาอาการไอได้เป็นอย่างดี มีรสชาติฝาดเปรี้ยวเมื่อทานไปซักพักจะรู้สึกหวาน ชุ่มคอ จิบน้ำสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการไอ การจิบน้ำอุ่นจัด จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ อาการไอได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้ทางเดินหายใจส่วนบน (จมูกและคอ) และเยื่อบุจมูกได้รับความอบอุ่นไปด้วยในตัว จึงช่วยยับยั้งเชื้อหวัดได้อีกทางหนึ่งลองสูตรเครื่องดื่มต่อไปนี้ จิบเป็นพักๆตลอดวัน แทนน้ำเปล่า 1. จิบชาเขียวร้อน ชาเขียวชงเข้มๆ ชาเขียวมีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ แถมยังมีสรรพคุณในด้านต้านการติดเชื้ออีกด้วย 2. จิบมะนาว+น้ำอุ่น ผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย วิตามินซีในน้ำมะนาวจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ตัวการทำให้เราระคายเคืองคอ 3. จิบชาราสป์เบอร์รี ใช้ใบชาราสป์เบอร์รี 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำร้อนจัด 1 ถ้วย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ให้ชาละลาย จากนั้นก็กรอง แล้วนำมาจิบ หรือจะกลั้วคอก็ได้เช่นกัน หากใครที่มีอาการไอแห้ง เจ็บคอ ไอเรื้อรัง ก็ลองรักษาเคล็ดลับง่ายๆ เคล็ดลับดีๆที่ นำมาเสนอ สำหรับวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ นะค่ะ ^^
เราสามารถแบ่งชนิดของอาการไอ ตามระยะเวลาของอาการไอ ได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ไอเฉียบพลัน คือ มีระยะเวลาของอาการไอน้อยกว่า 3 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นหวัด โพรงไซนัสอักเสบเฉียบพลัน คอหรือกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพองกำเริบ มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในหลอดลม หรือสัมผัสสารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ กลิ่นสเปรย์ แก๊ส มลพิษทางอากาศ เป็นต้น 2. ไอกึ่งเฉียบพลัน ระยะเวลาของอาการไอประมาณ 3 -8 สัปดาห์ 3. ไอเรื้อรัง คือ มีระยะเวลาของอาการไอนานกว่า 8 สัปดาห์ มักเกิดจากโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไซนัสอักเสบเรื้อรัง หืด กรดไหลย้อน เนื้องอกบริเวณคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม วัณโรคปอด การใช้ยาลดความดัน เป็นต้น โดยผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรัง อาจเกิดจากสาเหตุได้มากกว่า 1 สาเหตุ ยิ่งไปกว่านี้ อาการ ไอเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ ยิ่งนับว่าเป็นความผิดปกติที่ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อสืบหาสาเหตุของอาการ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการร่วมเหล่านี้ ไอเป็นเลือดสด ๆ หรือเสมหะมีเลือดปน เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ หอบเหนื่อยง่าย เกิดปอดอักเสบบ่อยครั้ง กลืนลำบาก กลืนเจ็บ เสียงแหบ ระวัง!
ไอเรื้อรัง | รักษาไม่หาย |นพ. วินัยโบเวจา - YouTube